คำถามที่พบบ่อย

คำถามเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า

ปัจจัยหลักๆในการเลิกบุหรี่มาจากความตั้งใจของผู้สูบ และกำลังใจจากคนรอบข้าง มีอดีตนักสูบไม่น้อยที่เลิกบุหรี่มวนได้โดยไม่ต้องพึ่งพาตัวช่วยใด แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ล้มเหลว บุหรี่ไฟฟ้าจึงถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว และนักสูบส่วนมากที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าก็สามารถเลิกบุหรี่มวนได้จริง เพราะเมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้าจนชินแล้ว เมื่อกลับไปสูบบุหรี่มวนจะเกิดอาการเหม็นนั้นเอง และก็มีนักสูบมากมายที่เลิกบุหรี่แบบถาวร ไม่ได้สูบอะไรอีกเลย

อย่างแรก คุณต้องอายุเกิน 18 ปีก่อน เพราะร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าส่วนมากจะจำกัดตรงนี้ เพราะเป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องอยู่แล้ว อย่างต่อมาคือต้องเริ่มจากการศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนว่าบุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร มีไว้ทำไม เมื่อเข้าใจแล้วให้เลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้งานง่ายมาก่อน เช่น พอตระบบปิด พอตใช้แล้วทิ้งเป็นต้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกซื้อกับร้านที่เชื่อถือได้

หากถามว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีโทษไหมนั้น คงต้องตอบว่าทุกสิ่งที่ทุกอย่างที่เข้าร่างกายมนุษย์เรานั้นต่างเป็นโทษกันทั้งนั้นไม่ว่าจะของกินหรืออากาศที่เราหายใจกัน เพียงแต่สิ่งเหล่านี้ก็ล้วนเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้ทั้งนั้น และสำหรับเรานักสูบทั้งหลายที่สูบบุหรี่มวนนั้นคงรู้ตัวกันดีกว่านิโคตินก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน แต่หากให้เทียบบุหรี่ไฟฟ้ากับบุหรี่มวนแล้วนั้น บุหรีไฟฟ้านั้นมีโทษที่น้อยกว่าบุหรี่มวนมากเพราะการเผาผลาญยาเส้นที่อยู่ในตัวบุหรี่นั้นมีสารต่างๆมากมายในกระบวนการตากแห้งซึ่งทำให้มีเชื้อโรคและสิ่งไม่พึ่งประสงค์มากมาย และไหนจะการเผาไหม้ที่ทำให้สารก่อมะเร็งอีกต่างหาก แต่กลับกันบุหรี่ไฟฟ้านั้นไม่มีโทษต่างๆที่กล่าวมาเลย แต่ก็ยังมีโทษเรื่องนิโคตินอยู่ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เหล่านักสูบต้องการจากบุหรี่อยู่แล้วแต่อย่างน้อยก็ยังลดปัญหาภัยไข้เจ็บที่ก่อจากบุหรี่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากๆจะไม่มีโทษเท่าบุหรี่มวนหากผู้สูบไม่รู้จักพอประมาณ เช่นหากผู้สูบเคยสูบวันละซอง การสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ 0.1 มิลิตรนั้นจะเท่ากับสูบบุหรี่มวนตกราวๆ 12-15 ครั้ง ซึ่งถือว่าค่อนข้างช่วยได้เยอะมาก เพราะฉะนั้นหากต้องการลดบุหรี่มวนก็ไม่ควรสูบเกินปริมาณที่ตัวเองเคยสูบไว้ ไม่งั้นอย่างงั้นจะกลายเป็นโทษกว่าเดิม

มันก็ได้แหละ แต่จุดประสงค์ในการคิดค้นบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาคือให้ผู้ที่สูบบุหรี่มวนหันมาใช้เป็นทางเลือกทดแทนที่อันตรายน้อยกว่า หากคุณสูบบุหรี่ไฟฟ้าควบคู่กับการใช้งานบุหรี่มวน ก็มีผลไม่ต่างจากการใช้บุหรี่มวนเป็นปกติ จึงแนะนำว่าควรใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเดียวจะดีที่สุด

ตอบตรงๆว่ากินได้ แต่ไม่ควร เวลาเราสูบยังไงน้ำยาก็ต้องเข้าปากอยู่แล้ว แต่ถ้าหากนำมากินแบบตั้งใจกินก็ไม่ควร เพราะในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคตินอยู่ ซึ่งนิโคตินสามารถดูดซึมผ่านผิวหนัง และระบบทางเดินอาหารได้ หากได้รับนิโคตินมากเกินไปอาจจะเกิดอันตรายได้ ดังนั้นใช้สูบอย่างเดียวพอ อย่าเอามากินเลย

ไม่ว่าจะควันบุหรี่ไฟฟ้า ควันจากบุหรี่มวน ควันรถ หรือควันเตาปิ้งหมูกระทะ ก็มีผลต่อสัตว์ทั้งนั้น โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่มีอายุขัยต่ำกว่ามนุษย์ เช่น สุนัขหรือแมว การสูดควันต่างๆเข้าไปอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายของสัตว์เลี้ยงได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็ว ยิ่งสุนัข หรือแมวที่มีสัมผัสเรื่องกลิ่นดีกว่ามนุษญ์ ก็ไม่สมควรที่จะให้สูดดมควัน หากต้องการสูบ ให้สูบในที่ที่อยู่ห่างจากผู้คน และสัตว์เลี้ยงจะดีที่สุด

สิ่งเสพติดเกิดจากสารบางชนิดที่ทำให้เกิดอาการเสพติด ในกรณีของบุหรี่ไฟฟ้าจะมีสารนิโคตินในน้ำยา ซึ่งเป็นสารเสพติด แต่ก็มีน้ำยาบางชนิดที่ไม่มีนิโคติน ก็ไม่ถือเป็นสิ่งเสพติด ขึ้นอยู่กับว่าคุณสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพื่ออะไร แต่สิ่งที่แน่นอนคือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ดีกว่าบุหรี่มวนแน่นอน

หากเป็นนักสูบหน้าใหม่นั้นคงสับสนว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีกี่แบบจะเลือกซื้ออย่างไร บุหรี่ไฟฟ้านั้น ณ ตอนนี้แยกออกได้เป็น 4 ประเภทหลักๆ นั้นก็คือ

  1. มอด จะเน้นไปทางตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่และจ่ายไฟได้สูงใช้กับน้ำยาฟรีเบสเท่านั้น,
  2. พอต จะเป็นบุหรี่ไฟฟ้าขนาดเล็กสะดวกต่อการพกพาไปไหนมาไหนใช้น้ำยาซอลนิค,
  3. พอตมอด จะเป็นระหว่างตรงกลางของมอด และพอตมีขนาดกลางใช้น้ำยาได้ทั้งฟรีเบส และซอลนิค
  4. พอตใช้แล้วทิ้ง เป็นพอตน้ำยาซอลนิคที่มีการใช้งานที่ง่ายและราคาถูกแต่มีข้อจำกัดต่างๆ

ทั้งนี้ผู้ซื้อก็ควรศึกษาข้อมูลเบื้องลึกเพื่อช่วยในด้านการตัดสินใจว่าจะนำไปใช้ในสถานการณ์แบบไหน

แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะบุหรี่ไฟฟ้าใช้การระเหยไอน้ำ แต่บุหรี่มวนใช้การเผาไหม้ ซึ่งเป็นสาเหตุในการเกิดโรคต่างๆ บุหรี่ไฟฟ้ามีกลิ่นที่หอม รสชาติหวาน บุหรี่มวนจะมีกลิ่นเหม็นไหม้ และเสียบุคลิค ที่สำคัญคือบุหรี่ไฟฟ้าสามารถช่วยเลิกบุหรี่มวนได้ และอาจนำไปสู่การเลิกบุหรี่แบบถาวรได้เลย ถ้ามีใครสักคนบอกคุณว่าบุหรี่ไฟฟ้ากับบุหรี่มวนเหมือนกัน อย่าไปเชื่อเด็ดขาด

ถ้าตอบตรงๆก็ต้องบอกว่าผิด ผู้ใดครอบครองหรือจัดจำหน่าย นำเข้า ส่งออก ถือว่ามีความผิด ต้องถูกดำเนินคดี ที่นี้ต้องมาดูว่าทำไมถึงผิดกฎหมายทั้งที่งานวิจัยจากต่างประเทศบอกว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน ก็ต้องบอกกันตามตรงอีกว่าเนื่องจากมีกลุ่มทุนที่เสียผลประโยชน์ตรงนี้ ซึ่งกลุ่มทุนดังกล่าวสามารถกำหนดทิศทางนโยบายภาครัฐบางส่วนได้ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนเอง นั่นจึงเป็นสาเหตุที่บุหรี่ไฟฟ้ายังคงผิดกฎหมายอยู่ในประเทศไทย

ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีข้อเสียอยู่แล้ว แต่เพียงแค่ว่าจะมีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร แน่นอนว่าบุหรี่ไฟฟ้าก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน เพียงแต่เป็นอะไรบ้าง หากพูดถึงข้อเสียหลักๆของบุหรี่ไฟฟ้านั้นเลยคือยังไม่เป็นที่ยอมรับในกฏหมายไทยซึ่งการจะพกไปไหนมาไหนนั้นค่อนข้างเสี่ยงหากมีเจ้าหน้าที่มาเห็น แต่ก็ยังคงเลี่ยงหลีกได้หากเก็บไว้ดีๆหรือไม่นำออกไปด้วย แต่ข้อเสียที่ดูแลยากสุดเลยนั้นคือการที่เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องมาการใช้งานกับน้ำยาหรือของเหลวเช่นตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เพราะหากตัวน้ำยานั้นไม่ได้การดูแลที่ดีก็อาจจะทำให้น้ำยาลงตัวเครื่องได้และจะทำให้ไปกระทบเข้ากับตัวเครื่องไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง จนทำให้บุหรี่ไฟฟ้าตัวนั้นๆเสียหายจนใช้งานไม่ได้ เป็นข้อเสียที่ผู้ใช้ต้องพึ่งระวังและคอยตรวจสอบอยู่อย่างสม่ำเสมอ และไม่ค่อยปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีการใช้งานนานๆเพราะจะทำให้ตัวเครื่องเกิดการเสื่อมสภาพตามเวลาได้ไวขึ้น

ทุกท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า Puff ในวงการบุหรี่ไฟฟ้าแต่ไม่ทราบว่าคืออะไรที่มาที่ไปคืออะไร โดยเริ่มจากการอธิบายคำว่า Puff ก่อน ความหมายในภาษาก็คือ จำนวนคำ หรือจำนวนที่เราได้สูบไปแล้วทั้งนี้จะใช้เป็นหน่วยในการนับ ซึ่งมักจะใช้ช่วงแรกสำหรับพอตหรือพอตมอดเพื่อเป็นการดูว่าเราได้สูบไปเท่าไหร่แล้ว แต่ก็จะมีการใช้คำว่า Puff สำหรับพอตใช้แล้วทิ้งแต่จะไม่ใช่ในการนับจำนวนคำแต่เป็นการบอกว่าเครื่องตัวนี้สามารถสูบได้กี่ครั้ง ซึ่งจะมีกำกับในชื่อของผลิตภัณท์นั้นๆอยู่แล้ว

ทุกท่านคงรู้จักกับกัญชาหรือเคยได้ยินกันมาบ้าง แต่คงสงสัยว่าสามารถนำน้ำมันกัญชามาใช้กับบุหรี่ไฟฟ้าได้ไหม ตอบได้เลยว่าไม่ควรเนื่องจากตัวบุหรี่ไฟฟ้านั้นไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมารองรับการของเหลวชนิดนี้ซึ่งมีความหนืดที่แตกต่างกัน และปัญหาเรื่องการจ่ายไฟที่ไม่เหมาะสมกับน้ำมันกัญชาอีกต่างหากเพราะได้เคยมีกรณีที่ทางฝั่งต่างประเทศได้ทำการลองนำน้ำมันกัญชามาใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้วเกิดอาการช็อค แต่ตั้งนี้น้ำมันกัญชาเองก็มีอุปกรณ์เป็นของตัวเองอยู่แล้วไม่จำเป็นจะต้องเสี่ยงนำมาใช้กับบุหรี่ไฟฟ้า ผู้ใช้ควรเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสิ่งที่ต้องการใช้มากกว่า

เราไม่ควรสูบไม่ว่าจะบุหรี่มวน หรือบุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะทั้งสิ้น แม้สถานที่นั้นจะไม่มีป้ายติดก็ตาม เพราะถือเป็นมารยาททางสังคม คุณอาจสูบบุหรี่ไฟฟ้าในบริเวณที่ห้ามสูบบุหรี่มวนได้ โดยเลี่ยงบาลีว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่บุหรี่ยาสูบ แต่คุณอย่าลืมว่าหากควันบุหรี่ไฟฟ้าไปรบกวนผู้อื่น เขาสามารถแจ้งความจับข้อหารบกวนได้ สิ่งที่จะบอกคือ เราต้องสูบอย่างรับผิดชอบ อย่าให้ไปเดือดร้อนใคร

เป็นคำถามที่ตอบยากมากๆ เพราะร่างกายแต่ละคนก็สามารถรับนิโคตินได้ไม่เท่ากัน เหมือนการกินเหล้า บางคนกินแก้วเดียวเมา บางคนยันเช้าก็ยังชิล บุหรี่ไฟฟ้าก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นคอยสังเกตตัวเองจะดีที่สุดว่าปกติเราสูบได้ประมาณไหน อย่าโหมสูบเยอะเกินไป เอาแค่พออิ่ม เมื่อเริ่มคุ้นชินแล้วจะจับจุดได้ว่าเราควรสูบประมาณไหนต่อวัน

ทั้งจริง และไม่จริง ต้องถามว่าคุณสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพื่ออะไรก่อน หากคุณต้องการเลิกบุหรี่มวน และหันมาใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าทดแทน ก็อาจจะประหยัดกว่าได้ ขึ้นอยู่กับว่าอุปกรณ์ที่คุณใช้เป็นแบบไหน ถ้าคุณสูบพอตไฟฟ้า คอยล์สำเร็จ ใช้งานง่ายๆ กับน้ำยามาเลย์ก็ต้องบอกเลยว่าประหยัดกว่าแน่นอน แต่ถ้าคุณใช้อุปกรณ์ระดับพรีเมี่ยม กับน้ำยาอเมริกาแบบนั่นจะแพงกว่าบุหรี่มวน

  1. ผู้ที่เสียผลประโยชน์หากบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย อย่างที่ทราบว่ามีกลุ่มทุน หรือแม้กระทั่งคนใหญ่คนโตของบ้านเมืองเราที่ได้รับประโยชน์มากมายอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งหากบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย คนกลุ่มนี้จะเสียผลประโยชน์ที่ตนเคยได้รับซึ่งมันมหาศาลมากๆ จึงใช้อำนวจทุกวิธีทางในการต่อต้านไม่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย
  2. ผู้ที่ได้รับข่าวสารมาแบบผิดๆ จากเอกสารงานวิจัยของต่างๆประเภทหลายๆแห่งระบุว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการใช้บุหรี่มวน แต่การที่ไม่สูบอะไรเลยจะเป็นผลดีที่สุด ซึ่งก็มีคนบางกลุ่มที่บิดเบือนข้อเท็จให้บุหรี่ไฟฟ้ามีความอันตรายเทียบเท่าบุหรี่มวน หรือยาเสพติดให้โทษชนิดอื่นๆ โดยส่วนมากข่าวปลอมพวกนนี้ก็มาจากคนกลุ่มแรกเพื่อสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนนั้นเอง
  3. ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากผู้ใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้าจะมีควันที่หนา และเยอะกว่าบุหรี่มวน ในบางครั้งอาจไปรบกวนผู้อื่นได้ ทำให้คนเหล่านั้นตั้งแง่ต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้า เพราะรู้สึกไม่พอใจคนสูบ ทางแก้คือเราต้องสูบอย่างรับผิดชอบ ไม่สูบในที่ที่มีคนอยู่รอบข้าง จะได้ไม่มีปัญหา

ส่งผลแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นควันจากบุหรี่มวนหรือบุหรี่ไฟฟ้าก็ตาม ถึงแม้ควันจากบุหรี่ไฟฟ้าจะอันตรายน้อยกว่าควันจากบุรี่มวน เพราะสิ่งที่ดีที่สุดคือการไม่ต้องสูบอะไรเลย ดังนั้นถ้าต้องการสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็ควรสูบในบริเวณที่ไม่มีผู้คน จะได้ไม่ไปรบกวนผู้อื่น และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสังคมผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้ด้วย

เรื่องนี้จริงแน่นอน เพราะส่วนประกอบของบุหรี่ไฟฟ้าจะมีแบตเตอรี่อยู่ ซึ่งแบตเตอรี่หากใช้งานไม่ถูกวิธีก็อาจเกิดการเสื่อมสภาพ บวม หรืออาจระเบิดได้ ในช่วงแรกๆที่บุหรี่ไฟฟ้ายังไม่แพร่หลายมากนัก มักจะมีนักสูบบางกลุ่มที่ความรู็ไม่พอไปใช้งานมอดยิงสดแล้วเกิดไฟลัดวงจรจนเกิดการระเบิด ทำให้ภาพลักษณ์ของบุหรี่ไฟฟ้าดูแย่ลงมากๆ แต่ในปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้ามักจะมาพร้อมกับแผงวงจรที่ช่วยรักษาความปลอดภัย ถ้าเกิดความผิดปกติจะตัดการจ่ายไฟทันที จึงหมดห่วงเรื่องนี้ได้เลย แต่แนะนำว่าก่อนใช้งานควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน และหมั่นตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ที่ใช้งานบ่อยๆ

บุหรี่ไฟฟ้าก็เหมือนกับทุกสิ่งบนโลกใบนี้ ไม่มีอะไรปลอดภัย 100% หากคุณศึกษาข้อมูลให้เข้าใจจะพบว่า เมื่อเทียบกับบุหรี่มวนแล้ว บุหรี่ไฟฟ้าจะอันตรายน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่มีนักสูบบางคนที่ใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าในทางที่ผิด หรือไม่ศึกษาก่อน ซึ่งทำให้เกิดอันตรายได้นั้งเอง โดยส่วนประกอบที่อาจมีผลต่อสุขภาพจะมีอยู่ 2 อย่างคือ

  • นิโคติน ซึ่งเป็นสารเสพติด ออกฤทธิ์ที่ระบบประสาท ถ้าได้รับนิโคตินมากเกินไปภายในระยะเวลาสั้นๆ อาจทำให้เกิดอาการหน้ามืด เวียนหัว อาเจียน หรืออาจถึงขั้นหัวใจวายได้ เพราะนิโคตินจะไปเร่งการทำงานของหัวใจให้เต้นเร็วขึ้นนั้นเอง หากสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว มีอาการดังกล่าว ให้ออกไปอยู่ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ดื่มน้ำเยอะๆ แต่ถ้าไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปหาหมอจะดีที่สุด
  • โพรไพลีนไกลคอล (PG) เป็นส่วนผสมในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือแพ้ได้ แต่อาการดังกล่าวจะหายเองโดยธรรมชาติ แต่สำหรับผู้ป่วยโรคปอดจะไม่แนะนำให้ใช่งานอยู่แล้ว

นิโคตินเป็นสารเสพติดประเภทหนึ่งที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท และสมอง ช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจ และทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ส่งผลให้ผู้ที่เสพนิโคตินจะรู้สึกสดชื่น ร่าเริง ผ่อนคลาย แต่หากได้รับมากเกินไปก็อาจเกิดโทษได้เช่นกัน ดังนั้นควรเลือกใช้งานน้ำยาที่เหมาะสำหรับตัวเอง และอุปกรณ์ที่ใช้งาน หากเป็นผู้เริ่มต้นแนะนำให้ใช้งานที่ระดับนิโคตินอ่อนๆก่อนจะดีที่สุด

และแน่นอนถ้าหากถามว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคตินไหมนั้นก็คงตอบได้เลยว่ามีอย่างแน่นอนโดยเฉพาะที่มีจำหน่ายในไทย เรียกได้ว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีส่วนผสมของนิโคตินเสมอเพราะเป็นจุดขายหลักของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเลยแต่จะมากจะน้อยทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทน้ำยาและระดับนิโคตินที่เราเลือกนั้นเอง การใช้ประโยชน์จากจุดนี้เพื่อลดหรือคงปริมาณนิโคตินที่เราต้องการได้นั้นเป็นผลดีต่อผู้ใช้อย่างมาก จะไม่เหมือนกับบุหรี่มวนที่ไม่สามารถกำหนดหรือควบคุมได้เพราะได้ออกมาสำเร็จรูปแล้ว

แต่ถ้าหากอยากทราบว่านิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้านั้นอันตรายไหมก็คงต้องบอกว่าอันตรายอยู่แล้วเพราะนิโคตินเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่งหากผู้ใช้เสพมากๆจะทำให้เกิดอาการติดแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะร้ายแรงจนทำให้เกิดปัญหาเป็นภัยต่อสังคม เพียงแต่จะส่งผลผู้สูบเพียงเท่านั้นไม่เหมือนกับบุหรี่มวนที่ในตัวควันนั้นมีสารพิษอันตรายที่เพียงแค่สูบดมก็อาจจะก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้

แน่นอนว่าไม่ผ่านตั้งแต่กฏหมายไทยแล้วเพราะฉะนั้นการแอบนำเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องนั้นเรียกว่าเป็นไปไม่ได้ดีกว่า หากเจ้าหน้าที่พบเห็นก็อาจจะทำให้เป็นเรื่องเป็นราวและอาจจะทำให้ถูกคุมตัวหรือยกเลิกเที่ยวบินของผู้ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าได้เลย การไม่นำไปด้วยที่สนามบินจึงเป็นเรื่องที่ปลอดภัยที่สุด และนี้ยังไม่นับเรื่องกฏหมายต่างประเทศของแต่ละประเทศนั้นๆอีกต่างหาก เพราะก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังไม่เปิดกว้างเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเหมือนกับประเทศเรา ถึงจะแอบนำขึ้นเครื่องไปได้ก็ต้องไปลุ้นอีกว่าประเทศที่ไปนั้นมีการตรวจเข้มหรือไม่