การสูบบุหรี่เป็นปัญหาใหญ่ต่อสุขภาพ ส่งผลเสียต่อทั้งผู้สูบเอง คนรอบข้าง และ สังคมโดยรวม ปัจจุบันมีผู้สูบบุหรี่ในประเทศไทย ประมาณ 10 ล้านคน และ เสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ กว่า 100,000 คนต่อปี
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สูดดมไอน้ำ แทนการเผาไหม้ยาสูบ หลายคนมองว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกใหม่ที่ปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน แต่ยังมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ
5 เหตุผลที่ควรลองบุหรี่ไฟฟ้า
- ปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน: บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีการเผาไหม้ จึงไม่มีสารทาร์ คาร์บอนมอนอกไซด์ และ สารก่อมะเร็งอื่นๆ ที่พบในบุหรี่มวน
- ช่วยลดมลพิษ: บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีควัน จึงไม่สร้างมลพิษทางอากาศ และ ไม่รบกวนคนรอบข้าง
- ควบคุมปริมาณนิโคตินได้: น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่แบบไม่มีนิโคติน ไปจนถึงนิโคตินเข้มข้นสูง ผู้สูบสามารถเลือกปริมาณนิโคตินที่เหมาะสมกับตัวเอง
- มีกลิ่นและรสชาติหลากหลาย: น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีกลิ่นและรสชาติให้เลือกมากมาย ต่างจากบุหรี่มวนที่มีกลิ่นและรสชาติจำกัด
- ช่วยให้เลิกบุหรี่ได้: บุหรี่ไฟฟ้าสามารถช่วยให้ผู้สูบบุหรี่มวน เลิกสูบบุหรี่ได้ โดยการค่อยๆ ลดปริมาณนิโคตินลง
ข้อควรระวัง
- บุหรี่ไฟฟ้ายังมีข้อมูลจำกัดเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ
- อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ไอ ระคายเคืองคอ เจ็บหน้าอก
- อาจเสพติดนิโคติน
- อาจเกิดอันตรายจากแบตเตอรี่
- มีราคาค่อนข้างสูง
กฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย
ปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในสถานะ “สินค้าควบคุม” ห้ามขาย นำเข้า หรือ ผลิต
บทสรุป
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้สูบ แต่ยังมีข้อมูลจำกัดเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ ผู้ใช้ควรศึกษาข้อมูล และ ใช้อย่างระมัดระวัง
คำแนะนำ
- ผู้สูบที่ต้องการเลิกบุหรี่ ควรปรึกษาแพทย์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญ
- ไม่ควรใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็ก และ เยาวชน
- ควรเลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากแหล่งที่เชื่อถือได้
- ควรอ่านฉลาก และ คำเตือนก่อนใช้
- ไม่ควรใช้บุหรี่ไฟฟ้าร่วมกับบุคคลอื่น
- ควรเก็บบุหรี่ไฟฟ้าให้พ้นมือเด็ก
**บทความนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนการสูบบุหรี่ แต่เป็นการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ผู้สูบควรใช้วิจารณญาณ และ ตัดสินใจด้วยตัวเอง