ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น หลายคนเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน แต่ความจริงแล้ว บุหรี่ไฟฟ้าดีจริงหรือแค่กระแส?
บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สูดดมไอน้ำ แทนการเผาไหม้ยาสูบ ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ ตัวเครื่อง หัวอะตอม และ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
กลไกการทำงาน
เมื่อผู้ใช้สูดดม แบตเตอรี่ในตัวเครื่องจะส่งกระแสไฟฟ้าไป加熱หัวอะตอม ทำให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าระเหยกลายเป็นไอน้ำ ผู้ใช้จึงสูดดมไอระเหยนี้เข้าไป
ข้อดีของบุหรี่ไฟฟ้า
- ไม่เกิดควัน จึงไม่สร้างมลพิษทางอากาศ และ ไม่รบกวนคนรอบข้าง
- ไม่มีการเผาไหม้ จึงไม่มีสารทาร์ คาร์บอนมอนอกไซด์ และ สารก่อมะเร็งอื่นๆ
- มีสารเคมีน้อยกว่าบุหรี่มวน
- สามารถควบคุมปริมาณนิโคตินได้
- มีกลิ่นและรสชาติหลากหลาย
- ช่วยให้เลิกบุหรี่ได้
ข้อเสียของบุหรี่ไฟฟ้า
- ยังไม่มีข้อมูลระยะยาวเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ
- อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ไอ ระคายเคืองคอ เจ็บหน้าอก
- อาจเสพติดนิโคติน
- อาจเกิดอันตรายจากแบตเตอรี่
- มีราคาค่อนข้างสูง
ผลการศึกษาวิจัย
งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า บุหรี่ไฟฟ้าอาจช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ แต่ยังมีงานวิจัยอีกจำนวนไม่น้อยที่พบความเสี่ยงต่อสุขภาพจากบุหรี่ไฟฟ้า เช่น
- อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคปอดอักเสบ
- อาจส่งผลต่อพัฒนาการของสมองในวัยรุ่น
- อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
กฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย
ปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในสถานะ “สินค้าควบคุม” ห้ามขาย นำเข้า หรือ ผลิต
บทสรุป
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้สูบ แต่ยังมีข้อมูลจำกัดเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ ผู้ใช้ควรศึกษาข้อมูล และ ใช้อย่างระมัดระวัง
คำแนะนำ
- ผู้สูบที่ต้องการเลิกบุหรี่ ควรปรึกษาแพทย์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญ
- ไม่ควรใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็ก และ เยาวชน
- ควรเลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากแหล่งที่เชื่อถือได้
- ควรอ่านฉลาก และ คำเตือนก่อนใช้
- ไม่ควรใช้บุหรี่ไฟฟ้าร่วมกับบุคคลอื่น
- ควรเก็บบุหรี่ไฟฟ้าให้พ้นมือเด็ก
**บทความนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนการสูบบุหรี่ แต่เป็นการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ผู้สูบควรตัดสินใจด้วยตัวเอง